PROEN เปิดฉาก Q2/65 คว้างาน กฟภ. มูลค่า 222.70 ลบ."สัญญาจ้างเหมาก่อสร้างสายส่งระบบ 115 เควี” 2 โครงการดัน Backlog เพิ่มหนุนผลงานปีนี้เติบโตเข้าเป้า 20%
บมจ.โปรเอ็น คอร์ป (PROEN) ประเดิมไตรมาส 2/65 ลงนามในสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง และจ้างก่อสร้างสายส่งระบบ 115 เควี กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จำนวน 2 โครงการ มูลค่ารวม 222.70 ล้านบาทฟากซีอีโอ"กิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม" ระบุการรับงานในครั้งนี้สนับสนุนให้มูลค่า Backlog พุ่งทะลุ1,069.93 ล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้ารุกขยายธุรกิจใหม่ "สินทรัพย์ดิจิทัล" เต็มพิกัด ส่งซิกผลงาน Q1/65 สดใส ผลักดันปีนี้เติบโตเข้าเป้า 20%
นายกิตติพันธ์ ศรีบัวเอี่ยม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ PROEN เปิดเผยว่า เมื่อวันที่วันที่ 5 เมษายน 2565 บริษัทฯ ได้ลงนามในสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง และจ้างก่อสร้างสายส่งระบบ 115 เควี กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) จำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการสัญญาจ้างเหมาก่อสร้างสายส่งระบบ 115 เควี โดยมีผู้รับจ้างเป็นกิจการค้าร่วม เอสทีเอ็น แอนด์ โปรเอ็น ประกอบด้วย บริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) และบริษัท สยามธรรมนนท์ จำกัด มูลค่ารวม 185,770,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าใช้จ่ายอื่น โดยเป็นงานเหมาก่อสร้างสายส่งระบบ 115 เควี สถานีไฟฟ้าท่าแซะ - สถานีไฟฟ้าปะทิว จังหวัดชุมพร ตามโครงการพัฒนาระบบส่งและจำหน่าย ระยะที่ 2 และมีกำหนดเวลาแล้วเสร็จ ภายใน 360 วัน
โครงการสัญญาจ้างก่อสร้างสายส่งระบบ 115 เควี มีผู้รับจ้างคือบริษัท โปรเอ็น คอร์ป จำกัด (มหาชน) มูลค่ารวม 36,931,562.53 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าใช้จ่ายอื่น ซึ่งเป็นการรับจ้างก่อสร้างสายส่งระบบ 115 เควี ช่วงสถานีไฟฟ้ากำแพงแสน - สถานีไฟฟ้าท่ามะกา 2 (ชั่วคราว) จังหวัดนครปฐม ตามโครงการพัฒนาระบบส่งและจำหน่าย ระยะที่ 2 แผนงานที่ 1 และกำหนดเวลาแล้วเสร็จภายใน 360 วัน
"การได้งานในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทฯ มีศักยภาพในการรับงานอย่างต่อเนื่อง และช่วยสนับสนุนให้มูลค่างานในมือรอรับรู้รายได้ (backlog) ปัจจุบันเพิ่มขึ้นแตะระดับ 1,069.93 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ในระยะเวลา 1 ปี ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังเดินหน้าประมูลงานใหม่เข้ามาอีกจำนวนมาก "
ประธานเจ้าหน้าที่บริหารได้กล่าวถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2565 คาดว่าจะเติบโตดีเนื่องจากบริษัทมีศักยภาพในการให้บริการ Co-location ที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งมีผลิตภัณฑ์ใหม่ และบริการที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้เติบโตไม่น้อยกว่า 20% จากปีก่อนโดยเน้นกลยุทธ์การเติบโตจะมาจากการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม รวมทั้งการควบรวม และเข้าซื้อกิจการ (M&A) เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งบริษัทฯ อยู่ระหว่างมองหาโอกาสในการเข้าซื้อกิจการประเภทธุรกิจดาต้า เซ็นเตอร์ และอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไป ขณะเดียวกันจะมุ่งเน้นการรุกขยายธุรกิจใหม่อย่าง ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล เต็มพิกัด
ล่าสุดในไตรมาส 1/2565 บริษัทฯ ได้มีการจัดจำหน่ายเครื่องขุดเหรียญ Crypto และเพิ่มบริการรับฝากวางเครื่อง (เฉพาะรุ่น) พร้อมบริการดูแลเครื่องขุดหลังการขาย และบริการให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งได้เข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ประเภทคริปโทเคอร์เรนซี ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด (“Bitkub”) เพื่อทำธุรกรรมการลงทุนของสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งคาดว่าจะเป็น New S-Curve หรือธุรกิจที่ช่วยผลักดันการเติบโตได้อย่างโดดเด่น และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต